25 ปี มทส. เปิดตัวนวัตกรรมเพื่อสังคม "ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพล็ตฟอร์ม" สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก

 

นักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) คิดค้นนวัตกรรมเพื่อสังคม ในโอกาสครบ 25 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย เปิดตัวคลาวด์ชนิดใหม่ “ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพล็ตฟอร์ม” (Cross-Platform Hybrid Cloud) เป็นครั้งแรกของโลก โดยการผสานระบบต่างชนิดกันให้ทำงานร่วมกันเป็นผืนเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมต่อคลาวด์ข้ามเวนเดอร์ ลดความเสี่ยงการล่มของระบบและความซับซ้อนในการจัดการ รวมถึงลดต้นทุนในการดูแลกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ขนาดกลาง ระดับ 100 ถึง 1000 ตัว ช่วยให้การย้ายระบบข้ามคลาวด์เป็นไปได้ง่าย เสริมความเข้มแข็งเชิงโครงสร้างแก่ Digital Economy พร้อมเปิดเผย Source code ให้นักพัฒนาทั่วโลกนำไปใช้งานได้ฟรี

ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เปิดเผยว่า “ในโอกาสครบ 25 ปี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ ตลอดระยะเวลาการดำเนินการที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้ที่คิดค้นงานวิจัย นวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เพื่อนำไปใช้งานจริงสู่สังคมหลายหลายระดับ ตามปณิธานของการเป็นมหาวิทยาลัยคู่เคียงและเป็นที่พึ่งของสังคม วันนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีในการเปิดเผยและแสดงความยินดีที่ทีมวิจัยและพัฒนาของ มทส. นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ แก้วกสิ และ อาจารย์ วิชัย ศรีสุรักษ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ที่ประสบความสำเร็จในการคิดค้น “ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพล็ตฟอร์ม” (Cross-Platform Hybrid Cloud) เป็นคลาวด์รูปแบบใหม่ ที่มีประสิทธิ์ภาพสูงกว่าคลาวด์ปกติ สามารถทำให้คลาวด์ต่างกันใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก 

 


อาจารย์ วิชัย ศรีสุรักษ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หนึ่งในทีมนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการไอยราคลัสเตอร์ มทส. กล่าวว่า “ระบบคลาวด์ที่ใช้กันในปัจจุบันมีด้วยกันหลายประเภท ได้แก่ คลาวด์ภายในองค์กร (Private Cloud) และ คลาวด์แบบสาธารณะ (Public Cloud) เช่น บริการคลาวด์ของอเมซอน Amazon (EC2) หรือของ Google ระบบคลาวด์ที่ใช้งานกันทั่วไปในปัจจุบันส่วนใหญ่ จะเป็นการประยุกต์ใช้คลาวด์ทั้งสองแบบร่วมกันเรียกกันโดยทั่วไปว่า คลาวด์แบบผสม (Hybrid Cloud) ซึ่งเป็นระบบแพล็ตฟอร์มเดียว เมื่อต้องการเพิ่มขนาด หรือเคลื่อนย้ายระบบไปยังผู้ให้บริการรายอื่น จะต้องใช้แพล็ตฟอร์มหรือระบบฮาร์ดแวร์ประเภทเดียวกันเท่านั้น ทีมนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการไอยราคลัสเตอร์ มทส. จึงได้ทำการพัฒนาและนิยามระบบคลาวด์รูปแบบใหม่ เรียกว่า Cross-platform Hybrid Cloud หรือ "ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพล็ตฟอร์ม" ซึ่งเป็นไฮบริดคลาวด์ที่สามารถทำให้ระบบที่มีสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์เบื้องหลังต่างกัน สามารถสั่งให้รันแอพพลิเคชันประเภทคลัสเตอร์รูปแบบเดียวกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นระบบฮาร์ดแวร์ที่เหมือนกัน โดยระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพล็ตฟอร์มชุดแรกที่สร้างขึ้น ใช้หน่วยประมวลผล ARM ของ “ไอยราคลัสเตอร์ มาร์ค-ทู” เป็นคลัสเตอร์ประหยัดพลังงานขนาด 50 โหนด (100 คอร์) ร่วมกับคลาวด์ x86-64 บิต ภายนอก และได้พัฒนาได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก” 

ทางด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ แก้วกสิ กล่าวเสริมว่า “ทีมนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการไอยราคลัสเตอร์ มทส. ได้พัฒนาระบบรองรับเทคโนโลยีการจัดการคลัสเตอร์ Docker Swarm ซึ่งร่วมพัฒนากับบริษัท Docker inc. จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยซอฟต์แวร์ของบริษัท Docker inc. เป็นเทคโนโลยีเป้าหมายของทั้ง Google, Microsoft, IBM และ Oracle ในการใช้เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของคลาวด์ยุคใหม่ ทั้งนี้ ทีมวิจัย มทส. เป็นสถาบันการศึกษาเดียวที่ร่วมพัฒนา Docker Swarm อย่างต่อเนื่องกว่า 6 เดือน 
ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพล็ตฟอร์ม สามารถเชื่อมโหนดประมวลผล 2 กลุ่มคือ กลุ่มซีพียู ARM ของไอยราคลัสเตอร์ และกลุ่มซีพียู x86-64 บิต ซึ่งเป็นคลาวด์สาธารณะให้เป็นคลาวด์ผืนเดียวกัน จากการทดลองสร้างระบบเว็บขนาด 100 โหนด ด้วย “ไอยราคัลเตอร์ มาร์ค-ทู” ขนาด 50 โหนด และ DigitalOcean ขนาด 50 โหนด พบว่าสามารถสร้าง server จำนวน 100 ตัวเพื่อให้รันได้เสร็จภายในเวลาไม่กี่นาที และทีมพัฒนาทำการปรับปรุงการลดเวลาในการเริ่ม server ใหม่ของระบบคลาวด์แบบใหม่นี้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถจัดการคลาวด์แบบผสมข้ามแพล็ตฟอร์มได้สำเร็จ มีการทำงานรวมเป็นผืนเดียวกันจากจุดควบคุมเพียงจุดเดียว แม้จะมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ” 


ทางด้านนายปรเมศวร์ มินศิริ ผู้บริหารเว็บไซต์กระปุกดอทคอม เว็บไซต์ที่ให้บริการคอนเทนต์ขนาดใหญ่ ที่มีผู้เข้าชมอันดับต้นๆ ของประเทศ ร่วมสนับสนุนและยินดีในนวัตกรรมนี้ว่า “ในปัจจุบัน ธุรกิจด้าน Digital Content จะขึ้นมาเป็นธุรกิจหลักที่มีมูลค่ามหาศาล ไม่ว่าจะเป็นด้านการให้สืบค้นข้อมูล การให้บริการซอฟต์แวร์ภาคองค์กร รวมไปถึงด้านความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ เทคโนโลยีที่เหมาะสมที่จะสนับสนุนการเจริญเติบโตนี้ในปัจจุบันก็คือ เทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อช่วยในการลดต้นทุนในด้านต่างๆ ความสำเร็จในการทำให้คลาวด์ที่มีสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์เบื้องหลังต่างชนิดกันสามารถทำงานร่วมกันได้ของ มทส. ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม ที่เป็น Innovation ระดับโลก เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ในยุค Digital Economy อันจะทำให้เจ้าของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือระบบบริการออนไลน์ต่างๆ ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้ประโยชน์โดยตรงจาก "ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพล็ตฟอร์ม" อาทิเช่น สามารถเช่าคลาวด์สาธารณะหลาย ๆ ที่พร้อม ๆ กันเพื่อลดความเสี่ยงในการล่มของระบบ และสามารถปรับและผสมอัตราส่วนการใช้คลาวด์จากผู้ให้บริการที่แตกต่างกันเพื่อลดต้นทุน เป็นต้น”

ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวสรุปว่า “เนื่องในโอกาสพิเศษที่มหาวิทยาลัยสถาปนาครบ 25 ปี ในปีนี้นั้น เพื่อให้ระบบคลาวด์ชนิดใหม่ “ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพล็ตฟอร์ม” (Cross-Platform Hybrid Cloud) ที่ได้พัฒนาขึ้นในครั้งนี้ ให้ประโยชน์เคียงคู่กับสังคมในโลกยุคเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลัยจึงได้ทำการเปิดรหัสต้นฉบับ (open source) ระบบจัดการ “Cross-Platform Hybrid Cloud” สู่สาธารณะ เพื่อให้นวัตกรรมของมหาวิทยาลัยเกิดประโยชน์สูงสุดสู่สังคมภายนอก เสริมสร้างความแข็งแกร่งทาง Digital Economy ของประเทศ รวมถึงสร้างประโยชน์แก่เทคโนโลยีออนไลน์ของโลกต่อไป”

 


----------------------
ส่วนประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนาร


ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง